LESSON 10 : วีระยุทธิ์ กุศลส่งเสริม

ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กร KCG Corporation

>>>>>

GOAL + PASSION = BEST VERSION OF YOU

              ชีวิตคือการสะสมและเชื่อมโยงจุด…
              เหมือนอย่างที่สตีฟ จ็อบส์ บอกไว้ว่า “Connect the Dots” หรือการ “เชื่อมโยงจุด”
            “มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะเชื่อมโยงจุดในชีวิตไปได้ล่วงหน้าตั้งแต่ตอนที่เรียนอยู่ แต่ 10 ปีให้หลังเมื่อย้อนมองกลับไป ผมกลับเห็นว่ามันมีความเชื่อมโยงที่ชัดเจนอย่างมาก” 
            (“It was impossible to connect the dots looking forward when I was in college. But it was very, very clear looking backwards ten years later.”)
              แต่ละจุดเหล่านั้นก็คือการเรียนรู้หรือการได้มีประสบการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งในชีวิต  

              เมื่อเราชวน คุณยุทธิ์-วีระยุทธิ์ กุศลส่งเสริม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร KCG Corporation มองย้อนกลับไป เขาพบว่าชีวิตที่ผ่านมาของเขาคือการสะสมและเชื่อมโยงจุดแต่ละจุด ผ่านการขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน บวก Passion หรือความหลงใหลในสิ่งที่ทำ จนทำให้เขาเป็นเขาอย่างในทุกวันนี้

เจอสิ่งที่ใช่ เป้าหมายต้องชัด แล้วพัฒนาอย่าหยุด

ชีวิตคุณยุทธิ์เริ่มต้นเหมือนคนทั่วไป สมัยเด็กก็เรียนๆ เล่นๆ เอาจริงหนักไปทางเล่นมากกว่าเรียน พอถึงเวลา
เอนทรานซ์ก็ยังหาไม่เจอว่าจะไปทางไหนดี เด็กศิลป์-คำนวณอย่างเขาคิดเอาเองว่าตัวเองน่าจะเหมาะกับงานสายนิเทศ ตอนนั้นเป็นจังหวะที่วงการนี้กำลังเฟื่องฟู สุดท้ายก็ได้เข้าเรียนที่คณะนิเทศศาสตร์ สาขาโฆษณา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดในชีวิต

              “ผมเป็นเด็กธรรมดาๆ เลิกเรียนเตะบอลทุกเย็น ตอนมัธยมยังเห็นภาพตัวเองไม่ชัด สอบเข้าเรียนนิเทศศาสตร์ ก่อนจะเลือกเรียนสาขาโฆษณา เพราะชอบดูทีวี แต่ก็ไม่รู้ว่าชอบนิเทศจริงไหม สรุปว่าเป็น Destiny ที่ดี เพราะถึงจะเรียนเอกโฆษณาแบบไม่ตั้งใจ แต่กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมรู้ตัวว่าเราชอบงานโฆษณามาก 
              “4 ปีในมหาวิทยาลัยเหมือนได้เปิดโลกใหม่ ได้รู้ว่าการทำโฆษณาต้องผ่านบริษัทเอเยนซี ซึ่งมีงานหลากหลายตำแหน่ง ตอนเรียนมีการเชิญ Speaker ตัวจริงในวงการมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟัง เกิดเป็นแรงบันดาลใจว่านี่แหละคือสิ่งที่เราอยากทำในอนาคต คำตอบมันชัดคือวงการโฆษณา” 
              หลังเรียนจบหางานทำ คุณยุทธิ์เริ่มต้นงานแรกด้วยการเป็น AE ที่ Cove-Ito เอเยนซีสัญชาติญี่ปุ่น หนึ่งปีในการทำงานยิ่งคอนเฟิร์มว่าตัวเองชอบสายงานนี้มาก ความรู้สึกบอกว่าใช่ อยากตื่นไปทำงานทุกวัน ลุยงานดึกแค่ไหนก็ไม่เกี่ยง และรู้ชัดเจนมากขึ้นว่าอยากเรียนต่อปริญญาโทด้านการตลาด เพื่อต่อยอดงานสายโฆษณาที่ทำอยู่ จึงตัดสินใจบินลัดฟ้าไปเรียนที่ Victoria University of Technology ประเทศออสเตรเลีย และได้ฝึกงานในบริษัทโฆษณาระดับโลกอย่าง JWT สาขาเมลเบิร์น ที่เขาเล่าด้วยตาเป็นประกายว่าเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม 

ยิ่งใช่ ยิ่งชัด

นอกจากการได้มีโอกาสเข้าไปเป็นพนักงานเสิร์ฟเครื่องดื่ม (เรียกง่ายๆ ว่า “บ๋อย”) ประจำห้อง VIP ในงานอีเวนต์ระดับโลกอย่างการแข่งขัน Formula 1 ได้สัมผัสชีวิตสังคมไฮโซของชาวออสซี่ แถมยังได้กระทบไหล่กับ มิคาเอล ชูมัคเกอร์ นักแข่งรถระดับตำนาน แบบที่ใครๆ ก็ต้องอิจฉา 
              อีกหนึ่งประสบการณ์ที่คุณยุทธิ์ไม่มีวันลืม หลังใกล้เรียนจบปริญญาโท ยังพอเหลือเวลาอีก 2-3 เดือนก่อนวีซ่าจะหมดอายุ เขาต้องการใช้เวลาที่เหลือทุกนาทีอย่างมีคุณค่า จึงตัดสินใจว่าอยากฝึกงานในบริษัทเอเยนซีโฆษณา เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตและเพิ่มรอยหยักสมอง
              “ผมไม่ได้อยากไปเสิร์ฟอาหาร เพราะรู้สึกว่ามันไม่ได้ทำให้ผมฉลาดขึ้น ตอนนั้นเป้าเราชัดมาก อยากเดินไปบนสายงานโฆษณา ด้วยความไฟแรงก็เลยอยากฝึกงานในเอเยนซี ซึ่งตอนนั้นไม่ต้องฝึกก็ได้นะ เพราะมหาวิทยาลัยไม่ได้บังคับ”
              ด้วยความที่ไม่มีเส้นสายที่ไหน เขาจึงหอบเอาความมุ่งมั่นตั้งใจนี้ไปปรึกษา Course Director ชาวอินเดีย ซึ่งก็ให้ความช่วยเหลือเต็มที่ ไล่กดเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเอเยนซีในเมลเบิร์นกว่า 20 แห่งที่ลูกศิษย์คนนี้ขวนขวายหามาชั่วข้ามคืนด้วยตัวเอง จนในที่สุดบานประตูแห่งโอกาสก็เปิดออก คุณยุทธิ์ได้รับโอกาสจากเอเยนซีชื่อดังอย่าง JWT สาขาเมลเบิร์น ให้เข้าไปฝึกงานที่นั่น
              แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 5 วัน แต่ยิ่งตอกย้ำ Passion ในการทำงานสายงานโฆษณาให้กับเขา ชนิดที่เจ้าตัวเล่าว่านอกจากใบปริญญาที่ได้มาแล้ว จดหมายรับรองการฝึกงานจาก JWT เมลเบิร์น คือ แผ่นกระดาษที่เขาภาคภูมิใจมากที่สุดในชีวิต

              “วันแรกของการฝึกงานมีผมกับเด็กป.ตรี ชาวออสเตรเลียอีกคน แต่เป้าหมายเขาไม่ชัดเท่าผม มาวันแรกแล้ว ไม่มาอีกเลย ส่วนผมมาฝึกงานด้วยไฟในตัวที่ลุกโชน นี่คือ Passion สุดๆ ของเรา  5 วันนั้น ผมได้เรียนรู้งาน 5 แผนก เวียนไปวันละแผนก ฝรั่งเขาไม่สนนะว่าคุณจะมาฝึกงานกี่วัน เขาให้ความรู้เต็มที่จากเคสจริงๆ แบบไม่มีกั๊ก อย่างเรื่องแบรนด์ ผมได้เรียนรู้เรื่องนี้จากผลิตภัณฑ์ Vegemite ยี่ห้อ Kraft ซึ่งเป็นที่ทาขนมปังของคนออสเตรเลีย ทีมที่รับผิดชอบเล่าวิธีคิดของแบรนด์ให้ฟัง การ Connect กับ Consumer ทำยังไง ผ่านกระบวนการคิดยังไง โห มันเป็น Session ที่ทำให้ไฟในตัวผมลุกมากขึ้นไปอีก คราวนี้ทะลุเพดานเลย เป้าหมายเราชัดมาก ไม่วอกแวกเลย” 

คำสอนของแม่ : อย่าประหยัดในการเรียนรู้
ตัดกลับมาที่เมืองไทย ช่วงทำงานในเอเยนซี คุณยุทธิ์เล่าว่า Learning Curve ของเขาสูงมาก อย่างที่รู้กันว่า
คนเอเยนซีต้องแอ็กทีฟอยู่ตลอดเวลา หูตาต้องไว ต้องไม่ตกเทรนด์  
              ด้วยบุคลิกเป็นคนใฝ่รู้ ประกอบกับ Passion ในงานที่ทำ ทำให้เขาสนุกกับการทำงาน มองย้อนกลับไปเขายอมรับว่าตัวเองค่อยๆ สะสมและเชื่อมโยงแต่ละจุดในชีวิต เขาโชคดีที่ได้มีโอกาสเรียนรู้กับองค์กรชั้นนำของวงการโฆษณาทั้ง Lowe, JWT, Saatchi & Saatchi ได้มีโอกาสดูแลแบรนด์ระดับโลกอย่างยูนิลิเวอร์ และ P&G ซึ่งอยู่ในระดับท็อปของสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งคู่ รวมถึงแบรนด์อินเตอร์อื่นๆ อีกมากมาย
              “ผมโชคดีที่ได้เรียนรู้ในองค์กร Best in Class ในสายงาน ทั้ง Lowe และ JWT คือ 2 ใน 3 เอเยนซีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในเวลานั้น  ได้เรียนรู้มหาศาลจากคนเก่งๆ ลูกค้าเก่งๆ แบรนด์ดีๆ ระบบที่ดี ก็ทำให้เรามีระบบที่ดีในการทำงานตามไปด้วย

              “ที่ Lowe ปูพื้นฐานให้เราค่อนข้างแน่น เข้าไปวันแรกๆ ผมต้องปรับตัวเยอะมาก เรียนจบมาร์เกตติ้งมา ทฤษฎีแน่นเปรี๊ยะ แต่พอมาเจอของจริง ลืมทุกอย่างที่เรียนไปได้เลย ของจริงเจ๋งกว่าในหนังสือร้อยเท่า เรียนรู้กันจนสะใจ ได้ทำหนังโฆษณาจนเบื่อ กระบวนการผลิตสิ่งพิมพ์รู้หมด อีเวนต์ก็ได้ทำงานร่วมกับบริษัทเบอร์หนึ่ง สนุกมาก เอนจอยมาก เปิดสมองเต็มที่ มีอาหารสมองใส่ตัวตลอด ไม่มีสักแวบที่วอกแวก มีเป้าหมายเดียวจะไปให้สุดขอบฟ้า จะเดินบนเส้นทางสายนี้และเติบโตไปเรื่อยๆ

              “พอย้ายมาทำงาน JWT ก็เหมือนได้ฝึกวิทยายุทธ์ต่อ ทำให้เราเก่งขึ้น ความรู้เรื่องแบรนด์ก็ได้จากที่นี่เยอะมาก ได้ดูแลแบรนด์อินเตอร์ ทั้งน้ำมันเชลล์  ลิปตัน  Ford  McDonald’s ทุกกระบวนการต้องอนุมัติจากเมืองนอก จากนั้นย้ายมาอยู่ Saatchi & Saatchi ได้ดูแลแบรนด์ระดับโลกอย่าง P&G ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับท็อปของ Consumer Product หน้าที่การงานก็เติบโตจนถึงตำแหน่ง Regional Account Manager บินไปเวิร์กช็อปที่สิงคโปร์ ได้ความรู้เยอะมาก สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเก่งขึ้น”

              คุณยุทธิ์แชร์ให้ฟังว่าเป็นคนชอบเรียนรู้ ส่วนหนึ่งมาจากคำสอนของคุณแม่ที่เน้นสอนว่าอย่าประหยัด 2 เรื่อง  “ท่านสอนว่าอย่าประหยัด หนึ่ง อาหาร ไม่ใช่ประหยัดกินทุกมื้อ แต่ต้องเลือกกินให้ดีต่อสุขภาพ และสอง ความรู้ ผมอยากเรียนอะไร แม่จะสนับสนุนตลอด ทำให้เราเป็นคนที่ชอบเรียนรู้ ตอนอยู่ JWT ทุกปีจะมีการจัดงาน Ad Fest ออฟฟิศจะคัดเลือกพนักงานไป ส่วนใหญ่จะเป็นฝั่งครีเอทีฟ เพราะเกี่ยวข้องกับสายงาน ผมเป็น AE ที่มี Passion เรื่องครีเอทีฟด้วย ก็อยากไปร่วมงานนี้ ถ้าบริษัทไม่ให้ไป ผมก็ตั้งใจจะออกค่าใช้จ่ายเอง จ่ายทีหลักหลายหมื่น โชคดี หัวหน้าไปขอ CEO ให้ ก็เลยได้ไป ทั้งบริษัทมีพนักงานเป็นร้อยคน แผนก Client Service ได้ไปแค่ 2 คน ผมเป็นหนึ่งในนั้น ไป Ad Fest ทีก็สาดความรู้ใส่สมองตลอดทั้ง 4 วัน เข้าสัมมนาแทบทุกหัวข้อ เดินดูบอร์ดทั่วงาน นั่นเป็นช่วงที่หล่อหลอมผมจนมาเป็นผมทุกวันนี้ ทำให้เราเป็นคนที่ไม่หยุดเรียนรู้”

ทำนอกบ้าน VS ทำที่บ้าน 

^{ภาพจาก  kcgcorporation.com}

เมื่อตัดสินใจเข้ามาทำงานที่บริษัท KCG Corporation ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจเนย ชีส วัตถุดิบเบเกอรีและอาหารตะวันตก เจ้าของผลิตภัณฑ์คุกกี้กล่องแดง Imperial ที่เราคุ้นเคยกันดี ธุรกิจนี้เป็นของญาติสนิทฝั่งคุณแม่ ต้องกระโดดข้ามจากฝั่งเอเยนซีมาทำงานฝั่งลูกค้า จากบริษัทที่บริหารโดยมืออาชีพมาเป็นธุรกิจครอบครัว เป็นอีกครั้งที่ต้องเชื่อมโยงจุดต่างๆ ในชีวิตเข้าด้วยกัน ไปพร้อมๆ กับการเพิ่มจุดใหม่ขึ้นมา

  ^{ภาพจาก  kcgcorporation.com}

              “ผมเข้าไปทำงานที่ KCG ตอนบริษัทครบรอบ 50 ปี โจทย์ชัดมากว่าต้องทำ Rebranding ปรับกลยุทธ์ของ แบรนด์ใหม่หมด ทำ Corporate Branding และ Product Branding ก็ได้ใช้ความรู้ทั้งหมดที่มีในการทำงาน ขณะเดียวกันก็มีเรื่องใหม่ๆ ที่ต้องเรียนรู้ เช่น Supply Chain ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ ต้องทำความเข้าใจตั้งแต่ต้นน้ำของชีสคือวัว ไปจนถึงปลายน้ำคือผู้บริโภค เรื่องความยั่งยืน เรื่อง Digital Transformation มันมีเรื่องใหม่ๆ ให้เรียนรู้ตลอดเวลา”

 ^{ภาพจาก  kcgcorporation.com}

              เขาพบว่าธุรกิจที่บริหารโดยมืออาชีพกับธุรกิจครอบครัวมีความต่างอย่างสุดขั้ว แต่ทั้งสองฝั่งต่างมีข้อดีข้อเสีย เป็นโชคดีของเขาที่ได้เรียนรู้ทั้งสองโลก และพยายามหาจุดตรงกลางให้สองโลกนี้มาเจอกัน 
              เมื่อเราขอให้ช่วยแบ่งปันว่าอะไรคือทักษะจำเป็นในอนาคตในมุมมองของเขา สำหรับคุณยุทธิ์แล้วมีอยู่ 2 ทักษะด้วยกัน คือ Digitality Literacy และ Financial Literacy  
              “ผมบอกกับบริษัทว่าเราควรเทรน 2 ทักษะต่อไปนี้ให้กับพนักงาน คือ Digitality Literacy และ Financial Literacy คำว่าดิจิทัลกว้างมาก ทุกคนพูดเรื่อง Digital Transformation แต่รู้มั้ยทรานส์ฟอร์มไปไหน คุณต้องทำ Business Strategy ก่อนแล้วค่อยทำ Digital Transformation ส่วน Financial Literacy หรือความรู้เรื่องการเงิน ก็ควรมีทั้งในมุมของการเงินส่วนบุคคล เช่น ควรออมยังไง ควรซื้อประกันเท่าไร และมุมการเงินของบริษัท เช่น KCG เป็นบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถ้าเป็นนักลงทุนจะดูงบการเงินยังไงให้รู้ว่าบริษัทนี้ดีหรือไม่ดี”

หา Passion ในสิ่งที่ทำ
ระหว่างพูดคุยกัน เราสัมผัสได้ว่าคุณยุทธิ์เป็นคนที่มี Passion ในทุกสิ่งที่ทำ เลยอยากรู้ว่าเขาหามันเจอได้อย่างไรเพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะหาสิ่งนี้เจอ นี่คือคำตอบของเขา
              “สนุกไปกับสิ่งที่ทำ แล้วค่อยๆ พัฒนาต่อยอดจนกลายเป็น Passion ผมบอกพนักงานที่ KCG ว่าขอให้คุณสนุกไปกับงานที่ทำ ยิ่งถ้าพัฒนาจนเป็น Passion ได้ คุณจะยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่ คิดง่ายๆ KCG มีโปรดักต์อยู่ 2,000 SKU แค่ลองกินวันละ SKU ต้องใช้เวลาหลายปี แต่ก็สนุกนะ ทำให้ชีวิตดูมีสีสันและมีประโยชน์กับงานด้วย มีคนเคยถามผมว่าทำไมรู้จักชีสเยอะ ผมตอบไปว่า ก็บริษัทเรามีชีสมากที่สุดอันดับหนึ่งในประเทศไทยนะ ผมเริ่มหาความรู้เพิ่ม แล้วก็เกิดเป็น Passion ใหม่ขึ้นมา พูดง่ายๆ ให้ความสำคัญกับอาหารมากขึ้น เริ่มมีสุนทรียในการกินมากขึ้น ทุกวันนี้ผมรู้จักชีสเกือบจะหมดทุกชนิด”
              อีกหนึ่ง Passion ของคุณยุทธิ์คือไวน์ จุดเริ่มต้นมาจากบริษัท KCG นำเข้าชีส และชีสมักกินคู่กับไวน์ ต่อยอดกลายมาเป็นธุรกิจส่วนตัว Wine2Share ที่ทำร่วมกับกลุ่มเพื่อนคอเดียวกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ว่า “ไวน์ดีมีเอาไว้แชร์กัน”
              “ชีสกับไวน์มักถูกจับคู่กัน เหมือนข้าวเหนียวกับส้มตำ เวลาไป Food Fair ผมจะเจอคนในอุตสาหกรรมไวน์เยอะมาก ก็เริ่มซื้อไวน์ เริ่มพูดคุยซักถามผู้รู้เรื่องไวน์ ซัพพลายเออร์รายไหนดี ไวน์ต้องเปิดยังไง แก้วไวน์ต้องซื้อยังไง แช่ไวน์ยังไง ผมพูดเสมอไวน์คือวุ่นวาย มีเรื่องต้องเรียนรู้ไม่จบสิ้น จากตอนแรกที่ไม่กินไวน์ เพราะรู้สึกว่ามันกระแดะแล้วก็แพง ตอนนี้รู้สึกว่าไวน์มีอะไรมากกว่าที่เราคิดอีก กลายเป็นอินกับไวน์ เหมือนหลงรักงานอาร์ตชนิดหนึ่ง เป็น Passion อีกอย่างในชีวิต พอได้ทำสิ่งที่ชอบก็หายเหนื่อย” 

Learn or Die
“ผมคิดว่าการเปิดหูเปิดตา พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ทำให้ชีวิตเรามีความหมาย มีไดนามิก (Dynamic) มีสีสัน ลองเริ่มจากหา Passion จากสิ่งที่ชอบก่อน แล้วขยายความรู้ออกไปเรื่อยๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงาน และความชอบส่วนตัว บางครั้งเราเหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง ก็ออกไปหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต ออกไปเดินทางท่องเที่ยว ดูหนังก็ได้
              “ผมว่าสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะอายุเท่าไร คุณก็ไม่ควรจะหยุดเรียนรู้ แล้วช่องทางการเรียนสมัยนี้ก็เยอะมาก คุณต้องเป็นคนขี้เกียจเท่านั้นนะถึงจะหยุดเรียนรู้ เราอยู่ในยุคที่คุณจะก้าวทันเทรนด์ไปเลยพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่มันรวดเร็วมาก หรือไม่ก็ตกยุคไปเลย 
              “อยากฝากไว้ว่าถ้าไม่หยุดนิ่งพัฒนาตัวเอง ทุกคนสามารถเป็นในสิ่งที่ดีที่สุดที่อยากเป็นได้”    

เก็บตกนอกห้อง (เรียน) จาก “นักเรียนรู้มืออาชีพ” 

• เปิดหูเปิดตา พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา แล้วชีวิตจะยิ่งมีความหมาย  

• สนุกไปกับงานที่ทำ ยิ่งถ้าพัฒนาจนเป็น Passion ได้ จะยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่   

• ถ้าได้ทำสิ่งที่ชอบจะรู้สึกเลยว่าเราไม่เหนื่อยที่จะทำ

• เราอยู่ในยุคที่คุณจะก้าวทันเทรนด์ไปเลยพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่มันรวดเร็วมาก หรือไม่ก็ตกยุคไปเลยถ้าไม่อัปเดตตัวเองอยู่เรื่อยๆ

• การได้เรียนรู้จากคนเก่งก็สำคัญ อยู่กับคนเก่งแล้วคุณก็จะเก่งตามไปด้วย

»»»»»»

“คุณควรเรียนรู้ตลอดชีวิต 
แล้วช่องทางการเรียนสมัยนี้ก็เยอะมาก 
คุณต้องเป็นคนขี้เกียจเท่านั้นนะ ถึงจะหยุดเรียนรู้” 

วีระยุทธิ์ กุศลส่งเสริม
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กร KCG Corporation 
»»»»»»

เปิดใจนักเรียน (รู้) BullMoon Exclusive รุ่น 1
“ผมรู้จัก พี่ป้อม-ปิยพันธุ์ วงศ์ยะรา ผู้ก่อตั้ง Stock2morrow จากคอร์ส 2morrow Scaler ซึ่งคอร์สนั้นผมได้เรียนกับคนเก่งๆ เยอะมาก เช่น พี่เว้-วิเชฐ ตันติวานิช ซึ่งเก่งเรื่องตลาดทุน พี่ปุย-ประกาศิต ทิตาราม หรือ WaveRider ซึ่งเก่งเรื่องลงทุนด้านเทคนิคอลมากๆ แค่ขอสะกิดความรู้แต่ละท่านมาอย่างละนิดละหน่อย ผมก็เก่งแล้วนะ บวกกับความขยันส่วนตัวอีกหน่อย ก็จะทำให้เรา Stay Relevant, Stay Updated ได้ สำหรับคอร์ส BullMoon Exclusive นอกจากจะได้เรียนรู้จากวิทยากรเก่งๆ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ผมยังไม่รู้ ยังจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในคลาส ผมว่าการได้คุยกับคนเก่ง ก็สำคัญ มันจะทำให้เราเก่งตามไปด้วย อย่างที่ฝรั่งบอก Surround yourself with great people. อยู่กับคนเก่งก็จะ เก่งตามไปด้วย ผมว่าจริงนะ”  

เรื่อง : รติรัตน์ นิมิตรบรรณสาร

ภาพ : พีรเชษฐ์ นิ่วบุตร

ดูรายละเอียดได้ที่ https://bullmoonexclusive.com